วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เครื่องไล่นก ส่วนใหญ่มักจะถูกใช้งานในลักษณะไล่นกพิราบตามหลังคาบ้าน ตอนที่ 2

การชำระนิราศคำโคลง ๑๒ เรื่องนี้จึงเกิดขึ้นในหนังสือเล่มนั้น มีนิราศแม่นั้าน้อยอยู่เรื่องหนึ่งขึ้งหมายถึงแควน้อยเมืองกาญจน่โคลงนิราศเรื่องนี้ ไม่ปรากฏขึ้อผู้แต่ง ต้นฉบับสมุดไทระบุเพียงว่า “ศิษย์ศรีปราชญ์” แต่งใน พ.ศ. ๒๓๓๔ ตรงกับรัชสมัยพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  เครื่องไล่นกทำเอง  รัชกาลที่ ๒ พระนามเดิม ฉิมท่านจันทร์ชี้เปรี้ยงเข้าให้ว่า ศรีปราชญ์และพระนารายณ์มหาราช สินไปแล้ว ๑๐๐ กว่าปี “ศิษย์ศรีปราชญ์” จึงโผล่ขึ้นมาเป็นนิราศเรื่องเดียว ซื่อคล้ายกัน ร่วมสมัยกับนิราศลำนำน้อยของพระยาตรัง และแต่งก่อนนิราศนรินทร์ถึง ๑๘ ปีสภาพภูมิศาสตร์กำหนดกวีให้ออกจากกรุงเทพฯ ข้ามเจ้าพระยาผ่าเข้าคลองบางหลวง ล่วงผ่านคลองสนามไชย

ไปสมุทรสาคร ย้อนขึ้นแม่กลอง แล้วก็ล่องถึงแควน้อยหรือแม่นํ้าน้อย“ศิษย์ศรีปราชญ์” รจนา โคลงนิราศตามเสด็จทัพตามลำน้อยไว้ ๒๐๐ บทบทที่ ๑๙๙ อหังการของกวีที่แท้จริง ในจึตที่สมถะสันโดษ ทว่าแสงหิ่งห้อยอันยิ่งใหญ่กว่าแสงพระอาทิตย์ของเชํงกวีก็ปรากฏ๏ ใดใดโอษฐโอ่อ้าง    ตนดีเอาปากเป็นกระวี  เครื่องไล่นกราคา   ขล่อยคล้อยหากหาญแต่วาที    เฉลยกล่าว ไฉนนาดุจหนึ่งแสงหิ่งห้อย    ล่องก้นตนเอง ๆกุมารที่เพิ่งหัดอ่าน หัดเขียนหนังล้ออย่าง บุญมือ ชนบท อ่านแล้วก็กระอักอายโลกของเขตบางขุนเทียน อยู่ระหว่างโคลงบทที่ ๕๖ ถึง ๕๙ใครอ่านเจอะที่ไหนอีก บอกมาอีก รับชี้อรับลอกหมด  ผ่านคลองบางหลวง ล่วงเข้าคลองด่านหรือคลองสนามไชย“ศิษย์ศรีปราชญ์” ก็ผงาดอย่างสงบ๏ มาพลางพลางนึกหน้า    นวลลอองเรือรี่รีบตามคลอง    คล'าวน้ากับถึงวัดนางนอง    นามนาฏเรียมก็นองเนตรผรํ้า    พรากไห้หาสมร ๆ นางนองนางนิ่มเนื้อ    เสมอสาย สวาติเอยสายเนตรเรียมฤๅวาย    เลือดย้อยใดนางปเห็นกราย    เครื่องไล่นกพิราบ มาเกริ่น ราแม่นางใช่นางนุชน้อย    พี่โอ้อาดูร ๆ๏ ถึงขุนเทียนเทียบเข้า    เรียมถามเทียนแม่พอกมืองาม    เล็บไล้ขุนเอยช่วยบอกความ    ขวังสั่ง (ขลังหรือขรัว?)ขอบดใบเทียนให้    พอกชํ้าทรวงเรียม ๆ๏ ดลปากบางปีอบ้าน    บางบอนกามระลุงทรวงฟอน    ฟามแล้วเรียมแสนทุกขอาทร    ทนเทวศถนัดหนึ่งกาบบอนแก้ว    แยบไล้เรียมคาย ๆไม่มีเอ่ยถึงวัดหนังและวัดจอมทอง ไม่เปนไรห้วงเวลานั้น ชุมชนในนามวัดนางนองน่าจะครอบคลุมพื้นที่ได้ยิ่งใหญ่กว่า เพราะวัดจอมทองยังมิได้รับการบูรณะเป็นวัดราชโอรสวัดหนังอาจยังเป็นสวนรกเรื้อเล่ากันว่า ไล่นก  ตอนพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ นามเดิม หับโปรดให้จัดงานฉลองวัดราชโอรส ๗ วัน ๗ คืน มีการลอยเรือเล่นสักรวาหน้าวัดสุนทรภู1 แอบไปเล่นด้วยพอผู้คนจำลีลาโวหารได้ ท่านก็พายเรือหนียังเน้นโรคจิตคิดข้างเดียวว่าด้องหนีราชภัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งไม่มีอ้าว ใครเอาสักรวา ๔ วรรคโนสมัยรัชกาลที่ ๖ มาแกล้งทิ้งไว้ถามหรือท้า?สักรวานมโตเท่าโถยอดขอยืมกอดสักคืนปะรืนส่งไม่ลวงส่อฉ้อฉลฉันคนตรงขอจงปลงใจเจือเชื่อลองลอง ๆ


เครื่องไล่นก